เมื่อเด็ก 4 ขวบ กำลังจะขาดแม่

http://pantip.com/topic/31403350
จากกระทู้ข้างต้นนี้ เรารู้สึกว่า ภาพมันบอกเล่าเรื่องราวประทับใจได้หลายอย่าง
ภาพบอกเล่าเรื่องราวความรักของผู้ชายคนนึงที่มีต่อภรรยา และความรักนั้นส่งต่อมาถึงลูกสาวตัวน้อยที่เติบโตขึ้นมา
แววตาของเธอเต็มไปด้วยความรัก เธอดูมีความสุขอยู่เต็มแววตาทั้งสอง แม้ในวันที่ไม่มีแม่ แต่เธอก็ได้รับความรักนั้น
อย่างเต็มเปี่ยมผ่านจาก่พอของเธอ ...... เราร้องไห้แม้ไม่ได้เห็นบทความใดใด แม้จะมีแค่ภาพที่แสดงเรื่องราวความรักนั้น

และวันนี้ครอบครัวของเราก็กำลังก้าวไปยืนที่จุดนั้นเช่นกัน
ในวันนี้ ผู้ชายคนนึง (น้องชายสามี) กำลังจะสูญเสียภรรยา
ลูกสาววัย 4 ขวบ กำลังจะขาดแม่ แม้จะทำใจไว้แล้วก็ตาม แต่เมื่อเราต้องยืนอยู่ในช่วงเวลานั้น
ขอบอกว่า มันแทบจะขาดใจ

เราเคยส่งกำลังใจให้น้องสะใภ้มาก่อน ด้วยกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/31244173
เมื่อวันที่ 15 พย 2556

ผ่านมาเดือนกว่าแล้วสินะ เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เหมือนว่า จุดเปลี่ยนผันจะไม่มาไวขนาดนี้
วันที่ 21 ธค ที่ผ่านมา น้องชายมาหาที่บ้าน ร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เราได้รับทราบว่า
ปู (น้องสะใภ้) อาการทรุดลง แม้แต่เดินไปเข้าห้องน้ำ เธอก็ไม่มีแรงจะไปได้ด้วยตัวเองอีกแล้ว
ที่แย่กว่านั้นคือ อาการไอที่มีเสมหะปนเลือดออกมา มีอาการหายใจไม่ทั่วปอด หายใจลำบาก

ครอบครัวตัดสินใจส่งเธอไป รพ แต่เนื่องจาก แพทย์ที่รักษาเธอที่ศูนย์มะเร็งจังหวัดชลบุรี ไม่อยู่
เลยพาเธอไปเข้า รพ กรุงเทพ ระยอง เพราะเธอเป็นลุกจ้างของ รพ ก่อนที่จะถูกส่งตัวมารักษาที่ศูนย์มะเร็ง
เธอผ่านการผ่าตัดมะเร็งเต้านมที่นี่ รพ.นี้จึงมีประวัติเธออยู่ การรักษาน่าจะทำได้ดีกว่า เพราะมีประวัติคนไข้อยู่แล้ว

ปูถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน........

ส่วนเราตามไปถึง รพ ภายหลังจากที่ปูเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว
วินาทีที่เราเห็นหน้าน้องชาย น้องชายตาแดงกร่ำ แววตาบอกเลยว่า สับสน กระวนกระวายใจ
เพราะหมอบอกว่า อาการทรุดลงเร็วเกินไป ในช่วง 2 อาทิตย์หลัง หมอหวังว่า จะไม่เป็นอย่างที่หมอคิด
ซึ่งสิ่งที่คิด ไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่นอน

ผลเอ๊กซเรย์ปอดพบว่า มีการลามไปอย่างรวดเร็วมาก หมอตัดสินใจให้ยาฆ่าเชื้อ และดูอาการ
หมอขอเจาะคอเพื่อให้ปูหายใจได้สะดวกขึ้น แต่เจ้าตัวขอไม่เจาะ บอกว่ายังไหว เธอกลัวว่า การดูแลแผลหากทำได้ไม่ดี จะติดเชื้อได้ เพราะความหวังของปูคือ การได้กลับบ้าน กำลังใจของปูดีมาก น้ำเสียงที่แสดงความเข้มแข็ง จิตใจที่เด็ดเดี่ยว สวนทางกับร่างกายเหลือเกิน

ทันทีที่เราทราบว่า ปูต้องเข้าห้องไอซียู น้องชายตัดสินใจโทรหาแม่ (แม่ตัวเอง)
แม่ตัดสินใจ พาหลานสาวลงมาดูแม่ มาโดยไม่ได้ลา ยื่นเรื่องไม่ทัน ฉุกเฉิน เพื่อให้ลูกได้เจอแม่ เพื่อให้แม่ได้มีกำลังใจ
เราไม่อยากจะคิดอะไรมากไปกว่าที่จะหวังว่า เวลานี้กำลังใจจะสร้างปาฏิหาริย์

น้องชายกลับมาถึงบ้านด้วยสภาพอิดโรย ความเครียด

*********************
วันนี้ลูกจะได้เจอแม่แล้วสินะ วันนี้ 23 ธค 56
ไอเดีย กำลังจะได้เจอแม่ปู

ไอเดียยังไม่รู้ว่า แม่ป่วยแค่ไหน รู้แค่ว่า เด็กน้อยอยากจะเล่าความภูมิใจให้แม่ได้ฟังว่า
แม่ปู ไอเดียได้เป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียนด้วยนะ ความฝันของเด็กน้อยวัย 4 ขวบ
คือ การได้แต่งตัวสวยงามและถูกชื่นชม โลกของเด็กน้อยมีแต่สีชมพู

ไอเดียนั่งอยู่บนเตียงคนป่วย รอยยิ้มของเด็กน้อย ทำให้ปูยิ้มได้ ระหว่างนั้นน้องชายถ่ายวิดีโอไปด้วย
ปูขอให้ไอเดียหอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวา หอมหน้าผากของแม่ ไอเดียทำตาม จนเด็กน้อยต้องบอกว่า
“พอแล้วแม่”

วิดิโอนี้ น้องชายบอกว่า เอาไว้ให้ปูดูระหว่างที่ไอเดียต้องกลับสกลนครวันพุธ (25 ธค 56) เพราะแม่สามีลางานมาได้เท่านี้ และไอเดียจะได้ไปโรงเรียนไปทำหน้าที่ของเธอ คือ การเป็นดรัมเมเยอร์

ปูบอกว่า อยากเห็นไอเดียเป็นดรัมเมเยอร์เดินอยู่หน้าแถวจัง แต่ก็เป็นได้แค่ความฝัน เพราะปูไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในเวลานี้

***********************
วันที่ 24 ธค 56

วันนี้ได้ข่าวไม่ดีเลย ปูอาการทรุดลงจากวันแรกที่มา รพ ผลการเอ๊กซเรย์ บอกว่า มันลามเร็วมาก เร็วเกินกว่าจะเป็นอย่างอื่น เร็วเกินกว่าจะเป็นแค่ไวรัส หรือ วัณโรค และมันเลวร้ายกว่าทั้งหมดทั้งมวลที่พูดมา

ปูกินข้าวได้น้อยลงกว่าเดิม เริ่มมีอาการเหม็นอาหาร

น้องชายหัวเสียเพราะ แม่ยายก็กลับบ้าน ไม่มีใครอยู่กับปูเลย น้องชายโมโหที่ทำไมแม่ยายต้องมามีธุระตอนนี้ ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน คนอื่นทำธุระแทนไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเป็นแม่ พ่อทำไม่ได้เหรอ นี่ลุกของคุณกำลังจะตายอยู่แล้วนะ

แม่ยายบอกว่า ถ้าไม่ได้กลับก็จะไม่ได้เงินจำนำข้าว เค้าต้องการให้เจ้าตัวกลับไปทำเอกสารเซ็นต์แทน ที่เคยทำได้ตามกฏเกณฑ์เดิมก็ทำไมได้ ขั้นตอนมากขึ้น แล้วคนแก่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ต้องกลับไป เพราะไม่งั้นไม่ได้เงิน

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้น้องชายหายโกรธ เราเข้าใจความโกรธของน้องชาย
เราเข้าใจว่า น้องโกรธว่าทำไมไม่มีใครสนใจปูเลย ปูเป็นหนักขนาดนี้ แม้แต่พ่อยังไม่ลงมา แถมยังให้แม่กลับไปเพียงเพราะต้องไปเดินเรื่อง แล้วตัวเองทำไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเป็นแม่ด้วยเหรอ แล้วแม่กลับไป ทำไมพ่อไม่มามั่ง ลูกคุณนะ เป็นขนาดนี้แล้วนะ”

เราให้สติน้องชายมาหมาย และสรุปว่า “ตอนนี้สิ่งสำคัญคือ กำลังใจคนป่วย การกล่าวโทษไม่เกิดผลดีกับคนป่วยเลย ในเมื่อปูคิดว่า คนที่ปูจะเชื่อมั่นและให้กำลังใจได้คือ เดียว ก็อย่ามองไปที่ไหน มองที่ตัวเราพอแล้ว ให้เราได้เป็นคนให้กำลังใจปู เพราะเค้าต้องการจากเรามากที่สุด

วันนี้แม่ยายกลับไปบ้านนอกแล้ว

*****************

บันทึกเพิ่มเติมในแต่ละวันอยู่ตามโพสตอไปนี้
http://pantip.com/topic/31431022/comment6
http://pantip.com/topic/31431022/comment7
http://pantip.com/topic/31431022/comment18
http://pantip.com/topic/31431022/comment21
http://pantip.com/topic/31431022/comment23
http://pantip.com/topic/31431022/comment24
http://pantip.com/topic/31431022/comment25
http://pantip.com/topic/31431022/comment27
http://pantip.com/topic/31431022/comment28
http://pantip.com/topic/31431022/comment32
http://pantip.com/topic/31431022/comment35


เรายังคงขอบันทึกเรื่องราวของปูผ่านโพสนี้ โพสเดียวไปเรื่อยๆ จนกว่า จะถึงวันที่ปูสู้ไม่ไหวแล้ว
ขอเป็นบันทึกสุดท้ายให้ปู คุณแม่ปู เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้ระลึกถึงเธอในยามที่เธอจากไป
ขอฝากเพื่อนๆ ช่วยโหวตอย่าให้กระทู้ตกลงไปได้มั้ยคะ ขอเพียงพื้นที่เล็กๆตรงนี้เท่านั้น เราไม่ขออะไรอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่